“Life without examined is not worth living”
ชีวิตที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ ไม่คุ้มค่ากับการมีชีวิตอยู่
.
“ถ้าเป้าหมายของตัวเองไม่ชัด คนอื่นจะยัดเยียดเป้าหมายของเค้าให้คุณ”
ก็เลือกเอา
.
“คุณจะค้นพบจุดเริ่มของตัวเองได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณมีความรู้มากกว่าเดิม” ถ้าหากต้องการการเติบโต การแสวงหาความรู้เป็นเรื่องที่ต้องทำสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ หรือคุยกับคนใหม่ๆ ทุกคนมีประสบการณ์ที่สามารถสอนเราได้ทั้งนั้น
.
“การค้นพบเป้าหมายในชีวิต” เป็นเรื่องยาก.. แต่สิ่งที่ยากกว่าคือ “การทำตามเป้าหมาย” เพราะโจทย์ชีวิตของเราไม่เหมือนกัน ต้นทุนชีวิตของเราก็ไม่เท่ากัน สิ่งที่ช่วยได้คือการเฝ้าสำรวจความสำเร็จเล็กๆในทุกช่วงของชีวิต ที่จะนำพาเราไปถึงเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่เรามีอยู่
.
การเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องซื่อสัตย์และยอมรับในจุดที่เราอยู่ สิ่งที่เรามี สิ่งที่เราไม่มี สิ่งที่เราเป็น และสิ่งที่เราไม่เป็น อย่าใช้มันเป็นข้ออ้าง และอย่าละทิ้งความพยายามและความเชื่อว่าเราจะสามารถไปถึงจุดหมายที่เราต้องการได้
.
“ต้นสนในเขตหนาวไม่ได้มีประโยชน์มากกว่ามะพร้าวในเขตร้อน” เราต้องรู้จักและเข้าใจคุณค่าของตัวเองและผู้อื่น การเดินทางไปถึงจุดหมายคนเดียวมันเหงานะ แถมช้าด้วย การช่วยเหลือผู้อื่นและการยอมรับการช่วยเหลืออาจทำให้คุณเดินทางเร็วขึ้นกว่าเดิม
.
“When you want to succeed, you need to want it as bad as you want air” .. that you have to breathe it every single second.
ทุกคนมีความฝัน บางคนมีเป้าหมาย น้อยคนที่เริ่มลงมือทำ
ทุกคนล้มเหลว บางคนลุกขึ้น น้อยคนเดินต่อ
คำถามคือ เราอยู่ในกลุ่มไหน? หรือจริงๆแล้วเรายังไม่ได้แม้แต่จะก้าวเดินเพื่อล้มเหลวด้วยซ้ำ
.
“รักตัวเองให้เป็น”
คนที่ไม่รักตัวเอง มีแนวโน้มที่จะดูถูกตัวเองเสมอ มักคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ไม่มีความสามารถ ไม่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone มาเผชิญกับความท้าทาย อย่ากลัวสิ่งที่เป็นปัญหาเพราะ “กำแพงที่สูงที่สุด คือกำแพงที่เราสร้างเอง”
.
จบเรื่องมีสาระ อันนี้บ่นเรื่องตัวเอง ข้ามได้ (หัวเราะ)
.
สิ่งแปลกใหม่ที่สุดในชีวิตช่วงใกล้เรียนจบคือ การถูกถามว่า “เป้าหมายในชีวิตคืออะไร” คำถามง่ายๆ ที่ทำให้เราทำลืมหายใจไปชั่วขณะ
.
“เออว่ะ” เป็นคำอุทาน ไม่ใช่คำตอบ เพราะไม่มีคำตอบ.. และไม่เคยมีคำถามนี้อยู่ในหัวด้วยซ้ำ
.
“เราควรมีเป้าหมายในชีวิต” เป็นโจทย์ข้อใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยได้รับมา นี่ก็ผ่านมาจะ 4 ปีแล้วก็ยังคงตอบคำถามไม่ได้ แต่ภายใน 4 ปีนี้ เรารับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของชีวิตได้มากกว่า 20 ปีที่โตขึ้นมา
.
อาจเป็นเพราะช่วงอายุ.. อาจเป็นเพราะความโชคดี ที่มีครอบครัวที่ดี ได้อยู่ในสังคมที่ดี ได้ทำงานที่ดี มีแต่คนเก่งๆที่สนับสนุนและพยายามเติบโตไปด้วยกัน
.
ในช่วง 4 ปีที่ยังไม่เจอคำตอบ แต่สิ่งที่เราเจอคือส่วนประกอบของคำตอบนั้น.. ความชัดเจนในตัวเองที่เพิ่มมากขึ้น และบางทีนั่นอาจจะเป็นความสำเร็จเล็กๆที่เราเริ่มต้นก็ได้
.
แถมยังได้เจอเด็กหลงอีกหลายคนที่มาร่วมเดินทางแบบตาบอดๆ หูหนวกๆ ยิ้มกว้างคลำทางไปด้วยกัน
.
มันก็ดีนะ (ยิ้มกว้างมาก)
.
ขอบคุณความมีสาระจาก..
- บทความดีๆของ Benjamin P. Hardy จาก Medium
- แม่หนิง “ผู้ตั้งคำถาม” คนแรกๆในชีวิต และสำหรับโอกาสดีๆที่ให้ส่งให้มาตลอด ทำให้ได้เติบโตขึ้นไปอีกเรื่อยๆค่ะ
- ประสบการณ์ และคำพูดดีๆของ อ. Jumbhot จากงาน LMI Alumni Homecoming ค่ะ